Wednesday, June 06, 2007

** +_+ งอน +_+ (ผู้ใดมีแฟนหรือกิ๊ก รีบอ่านด่วน !!!) ***
สมมุติฐาน - นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแล้วว่า อาการ งอน เป็นโรคระบาดที่ร้ายแรง
สามารถติดได้อย่างรวดเร็วและขยายเป็นวงกว้างในแนวราบ
ขณะนี้ยังไม่มีการค้นพบวัคซีน หรือยารักษาที่มีประสิทธิภาพ
และไม่พบหลักฐานที่แน่นอนว่าผู้ใดนำมาปล่อย หรือเป็นพาหะนำโรค



อาการ -ผู้ป่วยจะมีอาการหน้างอ ปากยื่น ไม่ยอมพูดจา
บางรายที่อาการหนัก จะมีอาการหน้าดำแทรกอยู่ด้วย หูแข็ง
ฟังอะไรก้อขัดหูขัดใจไปหมด ตาขวาง น้ำลายไหลเล็กน้อยแต่พองาม
โรคนี้ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูง มือไม้สั่น
ควบคุมการกวัดแกว่งของมือไม่ได้มักจะเหวี่ยงแปะปะไปตามหลัง
หรือหน้าของคนที่อยู่ใกล้ (มักเป็นชายหนุ่มที่เรียกว่าแฟน)
ผู้ป่วยที่อาการหนักอาจถึงขั้นชักดิ้นชักงอ ร้องไห้โฮโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาการจะอยู่นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อที่ได้รับ
และความคุ้นเคยกับโรคของตัวผู้ป่วยเอง


การปฐมพยาบาลเบื้องต้น - ควรสังเกตอาการผู้ป่วย ว่างอนอยู่ในระดับไหน
ถ้างอนน้อยๆ ให้รีบง้อ
ผู้พบเห็นทั่วไปควรเอาใจใส่ต่อผู้ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก
จะทำให้อาการไม่ลุกลาม และสามารถรักษาหายได้


สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก - ผู้ง้อ
ควรได้รับการฝึกสอนเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในการง้อเป็นพิเศษ
เพราะผู้ป่วยจิตใจอ่อนแอ เปราะบางแตกหักง่าย
ต้องการความเอาใจใส่อย่างมาก
ผู้ง้อจึงจำเป็นต้องมีความอดทนสูงมากๆมีวาจารื่นหู มีร่างกายแข็งแรง
ทนทานต่อการหยิกหรือข่วน และควรมีของขวัญแก้ตัวติดไม้ติดมือมาด้วย
ขอแนะนำให้เป็ฯดอกไม้ อาการของผู้ป่วยจะดีขึ้นเกินคาด


การดูแลในภายหลัง - ผู้ป่วยที่หายแล้ว
ยังสามารถอาการกำเริบได้ทุกเวลา
ผู้ใกล้ชิดต้องให้ความรักและความเข้าใจอย่างเต็มที่
หากความรักและความเข้าใจลดน้องลงเมือไหร่ อาการงอนจะกำเริบทันที


คำแนะนำ - เชื้อที่ได้รับยังไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้
ผู้ป่วยจึงสามารถขุดคุ้ยสาเหตุของโรคขึ้นมางอนได้เรื่อยๆ
ผู้รักษาจึงควรระวังตัวอยู่เสมอ

หมายเหตุ - โรคนี้มักพบมากในกลุ่มคนที่มีความสวยและความน่ารัก
สำหรับผู้ที่ไม่สวย และไม่น่ารัก จะเรียกอาการเดียวกันนี้ว่า น่าเบื่อ
น่ารำคาน ผ็รักษาสามารถปล่อยไปตามยถากรรม
ไม่จำเป็ฯต้องมีการปฐมพยาบาลใดๆ ทั้งสื้น จนกว่าอาการจะหาย
หรือตายไปเอง

ข้อสังเกต - จากการศึกษาพบว่า
ผู้ป่วยที่หน้าตาดีจะติดเชื้อโรคนี้ได้ง่ายกว่าผู้ป่วยหน้าตาธรรมดา
และหากไม่รีบรักษา ผู้ป่วยมักจะรักษาตัวเองด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า -กิ๊ก-
ส่วนผู้ป่วยที่หน้าตาธรรมดามักมีภูมิคุ้มกันในตัวเอง
หากไม่มีการรักษาจะหายงอนได้อย่างหน้าอัศจรรย์
***********************************************************

No comments: