ความรัก

".....ความรักย่อมอดทนนาน ความรักคือ
ความเมตตา ไม่อิจฉา ม่อวดตัว ไม่หยิ่ง
ผยอง ไม่หยาบคาย ไม่เห้นแก่ตัว ไม่
ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิด ความรักไม่ปีติ
ความรักปกป้องคุ้มครองเสมอ ไว้วางใจ
เสมอ มีความหวังอยู่เสมอ และอดทนบาก
บั่นอยู่เสมอ"
"ความรักไม่มีวันสูญสิ้น....."

เพียงเพื่อจะรักและคิดถึง


"เดี๋ยวนี้ แม่น้ำกว้างเกินไปที่จะข้าม
สายน้ำไหลเชี่ยวและดังเกินกว่าจะพูดคุยกัน
เราไม่เคยสร้างสะพานไว้เลย
ด้วยแม่น้ำกว้างเกินไป
จนไม่อาจฝ่าข้ามพ้น
ครั้งหนึ่ง กระแสน้ำอ่อนๆ เคยไหลผ่านระหว่างเราสอง
แต่ความรักก็สามารถข้ามมันได้อย่างง่ายดาย
จนกระทั่งท้องฟ้า นำหยดนำตามาที่นี่
และสายน้ำเชี่ยวกรากมาขวางกั้น
ระหว่างเธอกับฉัน
เดี๋ยวนี้ แม่น้ำกว้างเกินไปที่จะข้าม
ม่านขาดวิ่นเกินกว่าจะซ่อมแซมได้
ดูเหมือนว่ามันเป็นจุดจบที่ไม่ชื่นหวานนัก
เพราะว่าแม่น้ำกว้างเกินไป
บทเรียนที่ได้รับจะไม่ถูกลืมเลือน
เราละทิ้งความรักเพื่อรักษาความหยิ่งทะนงของเราไว้
คราวหน้า ถ้าฉันได้เผชิญกับสายน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆอีก
ฉันจะสร้างสะพานแห่งความรักและความเมตตา
ไปให้ถึงอีกฟากฝั่งหนึ่งให้จงได้"

ถ้ามีเพียง ๑๐๐ คนบนโลกนี้ (If the world were a village of 100 people)


ถ้าวันนี้เป็นวันที่คุณรู้สึกแย่เอามากๆ
ลองอ่านเรื่องนี้ดูแล้วคุณอาจจะมองสภาพรอบตัวเปลี่ยนไป


ถ้าเอาข้อมูลของประชากรทั่วโลกมาย่อย่นลง
เปรียบโลกเป็นเหมือนหมู่บ้านของคน ๑๐๐ คน จะเป็นอย่างไร
ที่หมู่บ้านนี้จะมี
๕๗ คนเป็นคนเอเชีย
๒๑ คนเป็นคนยุโรป
๑๔ คนเป็นคนอเมริกาเหนือและใต้
๘ คนเป็นแอฟริกา

๕๒ คนเป็นผู้หญิง
๔๘ คนเป็นผู้ชาย

๗๐ คนไม่ใช่คนผิวขาว
๓๐ คนเป็นคนผิวขาว

๗๐ คนนับถือศาสนาอื่นนอกเหนือจากศาสนาคริสต์
๓๐ คนนับถือศาสนาคริสต์

๘๙ คนเป็นรักต่างเพศ
๑๑ คนเป็นรักร่วมเพศ


คน ๖ คนถือครองทรัพย์สิน ๕๙ เปอร์เซ็นต์ ของโลก
ทั้ง ๖ คนนั้นเป็นคนสัญชาติอเมริกา
๘๐ คนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
๗๐ คนอ่านหนังสือไม่ออก
๕๐ คนทุกข์ทรมานด้วยโรคขาดสารอาหาร
๑ คนอยู่ในสภาพร่อแร่ใกล้ตาย
ในขณะเดียวกัน อีก ๑ ชีวิตก็กำลังจะเกิดมา
มีเพียงคนเดียว (ใช่แล้ว คนเดียวเท่านั้น) ที่เรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย
และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีคอมพิวเตอร์ใช้


เมื่อได้มองโลกจากภาพย่อเช่นนี้
คงจะทำให้เรายอมรับคนอื่น
เข้าใจคนที่แตกต่างไปจากเรา
และคงตระหนักดีถึงความสำคัญของการศึกษา
ในการที่จะเรียนรู้และรับรู้ความเป็นจริง

หรือ มาลองคิดจากมุมมองอื่น


ถ้าเช้านี้คุณตื่นขึ้นมา และรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงดี
ก็เรียกได้ว่าคุณโชคดีกว่าคนอีก ๑ ล้านคน
ที่ภายในอาทิตย์นี้ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่รอดหรือไม่


ถ้าคุณไม่เคยรู้สึกถึงอันตรายจากการสู้รบ การสงคราม
ความทุกข์ทรมาน ความเปลี่ยวเปล่าจากการถูกกักขัง
ความทรมานจากความหิวโหย
ก็เรียกได้ว่า คุณยังดีกว่าคนอีก ๕๐๐ ล้านคน

ถ้าคุณไม่ตกอยู่ในความหวาดกลัวต่อความตาย
ไม่ถูกจับกุม หรือถูกทรมาน สามารถไปทำพิธีในโบสถ์ได้
ก็เรียกได้ว่า คุณยังดีกว่าคนอีก ๓,๐๐๐ ล้านคน


ถ้าคุณมีอาหารเก็บในตู้เย็น
มีเสื้อผ้าใส่มีหลังคาคุ้มหัว มีที่นอน
ก็เรียกได้ว่า คุณมีความเป็นอยู่สุขสบายกว่าคนอีก ๗๕ เปอร์เซ็นต์ ในโลก


ถ้าคุณมีเงินฝากในธนาคาร มีเงินเหลือในกระเป๋าสตางค์
มีเงินวางอยู่ในบ้านที่ไหนสักแห่ง
ก็เรียกได้ว่า คุณมีฐานะดี อยู่ในกลุ่ม ๘ เปอร์เซ็นต์
ของผู้ที่มั่งมีที่สุดในโลก


ถ้าพ่อแม่ของคุณยังแข็งแรง และทั้งสองยังอยู่ด้วยกัน
ต้องเรียกได้ว่าเป็นเรื่องหาได้ยากทีเดียว
ถ้าคุณได้อ่านเรื่องนี้ ต้องเรียกได้ว่า ณ ช่วงเวลานี้
คุณน่าจะเป็นผู้ที่มีความสุขสองเท่า
เพราะ มีคนคิดถึงคุณและส่งข้อความนี้มาให้คุณ
นอกจากนั้น คุณก็ยังดีกว่าคนอีก ๒,๐๐๐ ล้านคนในโลกที่อ่านหนังสือไม่ออก

คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า
คุณทำสิ่งใดก็จะได้รับสิ่ง นั้นตอบสนอง


เพราะฉะนั้น ...................


จงทำงานโดยไม่คำนึงถึงแต่เงิน
จงรักผู้คนรอบตัว เสมือนหนึ่งไม่เคย

The last lizard

จิ้งจกเดียวดาย เจ้าจิ้งจกตื่นขึ้นพบว่าเหลือมันอยู่ตัวมันอยู่ตัวเดียวนโลก ครอบครัว เพื่อนฝูงของมัน หายไปหมด กระทั่งพวกจิ้งจก ที่ชอบรังแกมัน ก็หายไป มีมันเหลืออยู่ตัวเดียวในโลก เจ้าจิ้งจกคิดถึงครอบครัว คิดถึงเพื่อน มันคิดถึงกระทั่งศัตรูของมัน อยู่กับศัตรูยังดีกว่าอยู่คนเดียว มันว่าอย่างนั้น เจ้าจิ้งจกเหม่อมองอาทิตย์อัศดง เจ้าจะมีชีวิตอยู่ทำไม.... ถ้าเจ้าไม่มีใครคุยด้วย ความคิดของเจ้าจะมีความหมายอะไร ถ้าเจ้าเป็น "จิ้งจกเดียวดาย"

The last lizard "The lizard wakes up and finds he's the lest lizard alive His family and friends are all gone Those he didn't like, those who picked on him in school, are also gone The lizard is all alone He misses his family and friends Even his enemies It's better being with your enemies than being alone That's what he thought Staring at the sunset, he thinks 'What is the point in living.... If I don't have anyone to talk to?' But even that thought doesn't mean anything when you're the last lizard."

ศัพท์อิตาลี

cico อ่านว่า เชา แปลว่า สวัสดี
come va? อ่านว่า ค้อเม้หวา? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
bene อ่านว่า เบ๊เหน่ะ แปลว่า สบายดี
a presto อ่านว่า อะ เพรสโตะ แปลว่า แล้วพบกันใหม่เร็วๆนี้
permesso อ่านว่า แป่รเม้ชโชะ แปลว่า ขอทางหน่อย
mi dispiacel อ่านว่า มิดิ้สเปี้ยทเฉะ! แปลว่า เสียใจด้วย!
scusi อ่านว่า สคู่สิ แปลว่า ขอโทษ
attenzione! อ่านว่า อัตเตนชโย้เน้ะ! แปลว่า ระวัง!
sul serio? อ่านว่า ซุ้ส เส่หรี่โย่? แปลว่า อะจริงเด่ะ?
che cavolo อ่านว่า เคะข่าโหว่โหล่ะ แปลว่า อะไรกันเนี่ย(วะ)!
buona fortuna อ่านว่า บัวนา ฟอรตู่หนะ แปลว่า โชคดี
buon viaggio อ่านว่า บัวนะหวี่ยงโจ่ะ แปลว่า เดินทางโดยสวัสดิภาพ
grazie mille อ่านว่า กุร๊ะเอ๊ะ มิ่ลเหล่ แปลว่า ขอบคุณพันครั้ง

จอห์น-โยโกะ
วันที่จอห์น เลนนอน เจอโยโกะ โอโนะเป็นครั้งแรกในปี 1966 นั้น จอห์นยังคงมีภรรยาชื่อ ซินเธีย (พาวเวลล์) อยู่ แต่หลังจากนั้นอีกสองปี จอห์นก็ตัดสินคบหากับโยโกะหย่าขาดจากภรรยาคนแรก, ทิ้งลูกชายไว้ให้ซินเธียดูแล แต่งงานกับโยโกะ และพาเธอไปด้วยทุกที่แม้กระทั่งในเวลาที่วง The Beatles ซ้อม และไม่นานต่อมา วง The Beatles ก็ถึงกาลอวสาน

ด้วยความโด่งดังระดับตำนานของ The Beatles การปรากฏตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่นำมาสู่การแตกหักของวงที่แฟนเพลงจำนวนมหาศาลต่างทุ่มหัวใจให้ จึงก่อให้เกิดผลอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากว่า ทุกคนต่อต้านความรักครั้งนี้ และ "จอห์น-โยโกะ" คือคู่รักต้องห้าม

แม้กระแส "ไม่เอา" โยโกะจากสื่อมวลชนและแฟนเพลงจะถาโถมเข้ามาดัง คลื่นพายุ แต่จอห์นก็หาได้หวั่นไหวไม่ ครั้งนึงจอห์นเคยบอกว่า โลกนี้จะไม่มีจอห์นและโยโกะ(John and Yoko) จะมีแต่ จอห์น-โยโกะ ที่เป็นคนคนเดียวกัน (JohnAndYoko) เท่านั้น นอกจากนี้เพื่อแสดงว่าโยโกะ คือหนึ่งเดียวในดวงใจ จอห์นยังได้เปลี่ยนชื่อกลางจาก Winston เดิมไปเป็น Ono อีกด้วย หลังจากการแต่งงานเมื่อวันที่ 20 มีนาคม1969 ที่เกาะยิบรอลตา โลกก็ได้เห็นจอห์นและโยโกะเคียงข้างกันไปในทุกที่ และอยู่ร่วมกันในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้าน ดนตรี,ศิลปะ,หรือการต่อสู้เพื่อสันติภาพที่ทั้งสองพยายามเรียกร้องให้เกิดขึ้น ในการฮันนีมูนที่โรงแรม Bed In กรุงอัมสเตอร์ดัมส์ เนเธอร์แลนด์ พวกเขาได้เปิดให้สื่อมวลชนถ่ายภาพถึงห้องนอนฮันนีมูน แต่ด้วยจุดประสงค์เพื่อที่จะได้เผยแพร่คำให้สัมภาณ์ที่เต็มไปด้วยข้อเรียกร้องสันติภาพ และนำเสนอ

ภาพถ่ายที่มีคำว่า Peace แปะไว้บนหัวเตียงจอห์นและโยโกะ อยู่ข้างกันมาตลอดเวลา แม้จะมีวันเวลาที่ห่างไปบ้าง เมื่อครั้งแยกกันอยู่ช่วงปี 1973-1975 แต่หลังจากที่กลับมาคืนดี และมีลูกชาย-ฌอน เลนนอน-เกิดขึ้นในโลก พวกเขาก็ดำรงตนเป็นครอบครัวที่ไม่เคยห่างหายจากกันสักครั้ง....ดำรงตัวเป็นครอบครัวที่มีจอห์นคอยดูแลฌอนอยู่ที่บ้าน และมีโยโกะทำงานอยู่ข้างนอก แต่ภาพของ จอห์น-โยโกะ ก็ยังปรากฏเคียงกันทุกที่ แม้จนวันที่จอห์น ลาจากไปจากกระสุนปืนปลิดชีพ... โยโกะ ก็คือคนที่ยืนเคียงจอห์นอยู่ตรงนั้นครั้งนึงในวันที่เจอกันครั้งแรกที่งานแสดงผลงานศิลปะของโยโกะ เธอได้เชื้อเชิญให้จอหนปีนบันไดขึ้นไปดูผลงานที่เธอซ่อนไว้บนยอด ว่ากันว่า จอห์นปีนขึ้นไป ใช้แว่นขยายส่อง และเขาเจอคำว่า "Yes" หรือ "ใช่" เขียนไว้

ศักดิ์ศรี

ดวงแม่น ๆ คับ
@@ ทำนาย ทายทัก: หมอดูแม่น ๆ @@

@ วันอาทิตย์ ช่วงนี้ดวงอาทิตย์ยังคงร้อนอยู่ ดังนั้นไม่ควรเดินกลางแดดนานๆ เพราะจะทำให้เหงื่อออก ไม่ควรดูโทรทัศน์ใกล้ๆ เพราะจะแสบตาและบังคนข้างหลัง และไม่ควรขากเสลดบนทาง เท้าโชคไม่ดีอาจถูกปรับ ถ้าท้องผูกควรดื่มน้ำมากๆ เวลาปวดให้รีบเข้าห้องส้วมให้รีบร้อย และควรถอดกางเกงออกก่อน เวลาอาบน้ำห้ามสวมเสื้อผ้า ไม่ควรดื่มลิโพเกินวันละ 2 ขวด โปรดสังเกตุคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มแต่ไม่ต้องปฏิบัติตาม เด็กเกิดวันนี้ ถ้าเป็นคนจะไม่มีหาง จะมีหน้ามีตาตั้งแต่ยังเล็ก นอกจากกนี้จะยังมีหูจมูกและคางอีกด้วย ขณะเป็นทารกหรือทาริกาจะตัวเล็ก ในช่วงนี้ถ้าเด็กขี้แตกให้รีบเปลี่ยนผ้าอ้อมทันที และเด็กจะตัวใหญ่ขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เมื่อเติบใหญ่เด็กจะกลายเป็นผู้ใหญ่ได้เอง ถ้าทิ้งไว้ต่อไปก็จะแก่ลงโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่มีลูกหลานจะมีบุญได้ไปอยู่บ้านพักคนชรา

@ วันจันทร์ ระยะนี้ดวงจันทร์เลื่อนที่ตัดหน้าดาวโจรที่รังสิต ถ้าไม่ระวังของมีค่าอาจหายได้ ถ้าเดินไม่ระวังอาจหกล้มเจ็บตัวเป็นที่อับอายเสื่อมเสีย ถ้าเจอหมาบ้าไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาดเพราะอาจถูกกัดได้ เมื่อหิวก็ควรหาอะไรกินเป็นการแก้เคล็ด เด็กเกิดวันนี้ถ้าเป็นผู้ชายจะไม่เป็นหญิง โตขึ้นมาอีกหน่อยจะสามารถใส่เสื้อผ้าเองได้ เมื่อเติบใหญ่ต้องได้ไปทำบัตรประชาชนแน่นอน ในเรื่องความรัก หากมีแฟนอยู่แล้วก็จะเป็นคนที่เห็นหน้ากันก่อนที่จะเป็นแฟน หากยังไม่มีแฟนก็จะเป็นเพราะยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ก็ให้แก้เคล็ดโดยการพยายามต่อไป

@ วันอังคาร วันนี้หากใช้เงินมากเกินตัว อาจจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขาได้ ไปตลาดถ้าต่อราคามากๆ อาจถูกแม่ค้าด่า ดาวประจำตัวยังโคจรรอบคลองเตย ให้รีบไปทำงานแต่เช้า ถ้าไปสายจะถูกเจ้านายเขม่น ถ้าปวดหัวก็ให้นอนพักผ่อน อย่ากินแอสไพรินตอนท้องว่าง และอย่ากินกาแฟก่อนนอนเพราะจะทำให้นอนไม่หลับ เด็กเกิดวันนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายควรรีบทำสูติบัตร เมื่อถึงวัยเรียนก็ควรพาไปเข้าเรียน ถ้าเลี้ยงไม่ดีจะกลายเป็นโจรหรือติดยาบ้า ถ้าเลี้ยงดีอาจได้เรียนมหาวิทยาลัย ช่วง 5-7 ขวบควรพาเด็กเที่ยวเขาดิน เรื่องของความรักตอนนี้ถ้าปิ้งใครอยู่ก็ให้รีบเข้าไปคุย ไม่งั้นเขาไม่รู้ว่าเรากำลังจีบเขาอยู่

@ วันพุธ วันนี้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ดาวพลูโตอยู่ห่างสุด ตื่นขึ้นมาควรแก้เคล็ดด้วยการบิดขี้เกียจ และล้างหน้าแปรงฟันแก้ปากเหม็น ถ้าฝนตกไม่ควรออกไปเล่นน้ำฝนเป็นอันขาดเพราะจะเป็นหวัดได้ ขึ้นรถเมล์ระวังกระเป๋า รถเมล์จะเข้ามาเก็บตังค์ เดินทางไกลจะเจอแต่คนแปลกหน้า ในวันนี้ถ้าเจอพระตอนบ่ายสามห้ามใส่บาตรเด็ดขาด เจอเพื่อนจงทักทายดีๆ แต่ถ้าเจอเจ้าหนี้ควรหลบหนีไกลๆ เด็กเกิดวันนี้ถ้าเป็นชายโตขึ้นอาจจะเป็นตุ๊ดได้ เมื่อเติบใหญ่ควรพาไปเกณฑ์ทหาร และไม่ควรทำ สด 43 ปลอมเพราะจะถูกจับ ถ้าเป็นหญิงเมื่ออายุ 20 จะบรรลุนิติภาวะได้เอง ในช่วงอายุนี้บิดามารดาไม่ควรอนุญาติให้ลูกสาวบวชเป็นอันขาด ในเรื่องของความรักคนที่มีแฟนอยู่อาจเลิกกันได้ คนที่ยังไม่มีแฟนอาจจะมีคนมาปิ๊งก็ได้

@ วันพฤหัส วันนี้ถ้าเหยียบขี้หมาให้รีบเอารองเท้าขูดกับฟุตบาทโดยเร็ว มิฉะนั้นจะเหม็น ขึ้นรถเมล์ควรเกาะราวให้แน่นโดยเฉพาะทางโค้ง และไม่ควรตดบนรถเมล์เป็นอันขาด ถ้าอากาศร้อนไม่ควรใส่เสื้อหนาว ถ้าอากาศเย็นไม่ควรดื่มน้ำแข็ง เมื่อเห็นพัดลมกำลังหมุนอย่าเอามือเข้าไปแหย่มิฉะนั้นเลือดจะออกได้ เด็กเกิดวันนี้เมื่อเกิดใหม่ๆ ฟันจะยังไม่ขึ้นควรรอไปเรื่อยๆ ฟันจะขึ้นเองอย่าพาเด็กไปใส่ฟันปลอมเพราะจะมีฟันเกิน ไม่ควรเลี้ยงเด็กทารกด้วยนมข้นหวานจะทำให้ขาดสารอาหารได้ ให้เลี้ยงด้วยนมแม่ไปก่อนจนกว่าจะมีอายุครบ 2 ขวบ เมื่อโตขึ้นผู้ปกครองควรสอนให้เด็กล้างก้นเอง มิฉะนั้นจะเป็นภาระในอนาคตได้ ในเรื่องของความรักหากยังเป็นแฟนกันจะยังไม่มีทะเบียนสมรส หากตัดสินใจจดทะเบียนก็จะต้องไปจดที่อำเภอหรือเขตแน่นอน

@ วันศุกร์ วันนี้ห้ามทิ้งแฟนเป็นอันขาดเพราะแฟนอาจจะเสียใจได้ และห้ามกินของมันๆ ระวังจะอ้วน ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยๆ 3 เดือนต่อ 1 อันกำลังเหมาะ และไม่ควรลงเล่นน้ำคลองในใจกลางกรุงเทพฯเป็นอันขาด วันนี้ดาวพระศุกร์โคจรมาพบกับดาวพระเสาร์ ดังนั้นถ้าวันนี้เป็นวันศุกร์พรุ่งนี้ก็ควรจะเป็นวันเสาร์ และวันต่อไปจะเป็นวันอาทิตย์ เด็กเกิดวันนี้เป็นผู้มีบุญญา วาสนาส่ง เมื่อแบเบาะจะยังพูดไม่ได้ ควรสอนไปเรื่อยๆ เด็กจะพูดได้เอง ยกเว้นถ้าเด็กเป็นใบ้ ในระยะ 6-8 ขวบ ควรสอนให้เด็กเข้าบ้านทางประตู ไม่ควรสอนให้เด็กเข้าบ้านทางหน้าต่างเด็ดขาด

@ วันเสาร์ วันนี้ถ้าเดินผ่านกองขยะควรเอามือปิดจมูก และรีบเดินผ่านโดยเร็ว หลังกินข้าวถ้ามีเศษอาหารติดฟัน ไม่ควรเอาตะเกียบแคะฟันเป็นอันขาด ควรใช้ไม้จิ้มฟันดีที่สุด ถ้าเล็บยาวควรตัดให้สั้น แต่ถ้าสั้นไม่ควรต่อให้ยาว คืนนี้ไม่ควรนอนดึกเพราะพรุ่งนี้จะตื่นสาย เวลาอาบน้ำควรถูสบู่ให้เกลี้ยงเกลา เวลาไปวัดควรสวมเสื้อผ้าไปด้วยและ ไม่ควรแคะขี้มูกต่อหน้าพระสงฆ์ ถ้าคันจมูกควรจามให้เรียบร้อยก่อนเข้าวัด แต่ถ้าไปสวนสัตว์ห้ามยื่นมือเข้ากรงเสือเป็นอันขาด ถ้าขับรถไม่เป็นก็ไม่ควรขับ จะเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ให้แก้เคล็ดโดยการนั่งรถเมล์หรือแทกซี่จะดีกว่า เด็กที่เกิดวันนี้เมื่อยังเล็กถ้าหิวจะร้องให้ ควรป้อนนมเสียเด็กก็จะหยุดร้องเอง และเมื่อป้อนนมเสร็จแล้วเด็กอิ่มไม่ควรเข้าไปเล่นกับเด็กทันที เด็กอาจจะอ้วกใส่หน้าได้ ควรทำให้เด็กเรอเสียก่อน เมื่อโตขึ้นมาหน่อยควรเลี้ยงด้วย อะแล็คต้าเอ็นเอฟ หนองโพ และสเปย์รอยัลตามลำดับ

ความรักของแต่ละคณะ

เ ภ สั ช ก ร : แ ค่ ก . . . แ ค่ ก . . . ข อ ย า ใ ห้
ผ ม ห น่ อ ย ผ ม มี อ
ก า ร ไ อ . . . เ ลิ ฟ ยู

พ ย า บ า ล : ห น้ า ที่ ข อ ง ผ ม คื อ เ ยี ย ว ย า .
พ อ รั ก ษ า ห า ย
เ ธ อ ก็ จ า ก ไ ป

สั ต ว ะ : L o v e m e , l o v e m y d og

จิ ต วิ ท ย า : ส ะ ก ด จิ ต เ ป็ น เ รื่อ ง ง่ า ย .
ส ะ ก ด ใ จ เ ป็ น
เ รื่ อ ง ย า ก

นิ เ ท ศ : อ ก หั ก ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ ง ใ ห ญ่ . . ยั ง เ ล่ น ใ ห ม่ ไ ด้
อี ก ห ล า ย เ ท ค


นิ ติ : โ ธ่ เ อ๊ ย . . . ค ว า ม รั ก นี่ ช่ า ง ไ ม่
ยุ ติ ธ ร ร ม เ ล ย

บั ญ ชี : คำ น ว ณ ตั ว เ ล ข อ า จ ใ ช้ เว ล า เ พี ย ง เ สี้ ย ว น า ที
แ ต่ คำ น ว ณ ใ จ เ ธ อ นั้ น ใ ช้ เ ว ล า เ ป็ น ปี

รั ฐ ศ า ส ต ร์ : ห นุ่ ม รั ฐ ศ า ส ต ร์ ข อ บ อ ก เ ธ อ ว่ า รั ก . . . สา ด . . . ส า ด

ค รุ ศ า ส ต ร์ : ผ ม ส า ม า ร ถ ส อ น คุ ณ ไ ด้ ทุ ก
อ ย่ า ง . . แ ต่ มีเรื่ อ ง เ ดี ย ว ที่ อ ย า ก ใ ห้ คุ ณ ส อ น ผ ม

อั ก ษ ร ฯ : ห ว่ อ อ้ า ย ห นี่ , ติ อ า โ ม , เ ฌ อ แ ต ม , ไ อ เ ลิ ฟ ยู รั ก ห ล า ย เ ด้ อ

เ ศ ร ษ ฐ ศ า ส ต ร์ : ไ ด้ ใ จ เ ธ อ คื อ กำ ไ ร เ ธ อ ไ ม่ ส น ใ จ คื อ เท่ า ทุ น

โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า S o f t w a r e : H e a r t d i s k ข อ ง เ ธ อ มีกี่ \' กิ๊ ก \'
ส่ ง ใ จ ไ ป เ ท่ า ไ ห ร่ ก็ ไ ม่ เ ต็ ม

แ พ ท ย์ : บุ ห รี่ ผ ม ก็ ไ ม่ สู บ . . สุ ข ภ า พ ก็
ดู แ ล ดี . . แ ต่ พอ เ จอ เ ธ อ ทุ ก ที . . . มี อ า ก า ร โ ร ค ป อ ด
ขึ้ น ทั น ใ ด

วิ ท ย า ฯ : ค ว า ม รั ก ไ ม่ มี สู ต ร ต า ย ตั ว

ศิ ล ป ก ร ร ม : ปั้ น เท่ า ไ ห ร่ ก็ ไ ม่ เห มื อ น
. . เ พ ร า ะ เ ธ อ
น่ า รั ก ขึ้ น ทุ ก วั น

วิ ท ย์ กี ฬ า : ร่ า ง ก า ย แ ข็ ง แ ร ง . . แ ต่ หั ว ใ จ อ่ อ น แ อ

ส ห เ ว ช : ไ ม่ รู้ เ ค รื่ อ ง เ อ ก ซ เ ร ย์ เ สี ย
รึ เ ป ล่ า . . เ พร า ะ เ อ ก ซ เ ร ย์ ล ง ไ ป ก็ เ จ อ
แ ต่ ห น้ า เ ธ อ

ส ถ า ปั ต ย์ : รั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้

ทั น ต ะ : ถ้ า ต ร ว จ ฟั น ผ ม ค ง เ จ อ แ ม ง กิ น
ฟั น . . ถ้ า ต ร ว จ
ใ จ ผ ม ค ง เ จ อ เ ธ อ กิ น ใ จ

วิ ศ ว ะ : ค ณ ะ เ ร า ผู้ ช า ย มัน เ ย อ ะ นี่ ห ว่ า . . . ดู ไ ป ดู ม า
น า ย ก็ น่ า รั ก ดี น ะ

ศักดิ์ศรีกับความรัก

เคยคิดไหม ว่าใครคนหนึ่งที่คุณไม่ได้คาดฝันเค้าจะมารักคุณ

อย่ามองข้ามเขาไป

เพราะบางทีสิ่งที่คุณค้นหาอาจจะอยู่ในตัวของคนๆนั้นก็ได้

ถ้าคิดว่า “รู้สึกดีๆ” กับใครคนนั้นอย่าลืมบอกเค้า ก่อนที่มันจะสายไป

วันเวลาอาจจะจำเป็นในการศึกษาใครซักคนหนึ่ง

แต่สิ่งทีสำคัญมากกว่านั้นคือ

“เราเข้ากันได้หรือเปล่า เวลาเราอยู่ด้วยกัน เวลาเราได้คุยกัน

เค้าทำให้เราสบายใจได้หรือเปล่าเวลาเราไม่สบายใจ

และสุดท้าย เค้ารับเราได้หรือเปล่าที่เราเป็นเรา”

มันไม่ง่ายเลยที่คุณจะเจอกับใครซักคน

ที่คุยกับคุณแล้วสร้างความรู้สึกสบายใจให้กับคุณ

เพราะว่าคนทุกคนไม่เหมือนกัน

ถ้าวันนี้คุณเจอคนๆ นั้น

คนที่คุณรู้สึกดีเวลาอยู่ใกล้ๆกับเค้า

อย่าลืมบอกเค้า

อย่าคิดแค่ “รอ” ต้องรอจนแน่ใจ

เพราะวันเวลาไม่ได้ช่วยให้ความรักสมหวังซะทีเดียว

บางทีเวลาอาจจะเป็นตัวทำลายสิ่งดีๆนี้ด้วยซ้ำ

ที่แน่ที่สุดคือ “ตัวคุณ”

อาจจะเป็นคนผลักสิ่งที่ดีที่สุดไปจากชีวิตของคุณเอง!

อย่าอยู่กับอดีต เพราะอดีตคือวันเวลาที่ผ่านไป

อย่าฝันกับอนาคต เพราะไม่มีอะไรที่แน่นอน

จงอยู่กับปัจจุบัน เพราะปัจจุบันยังอยู่กับคุณ

เพราะฉะนั้นแล้ว

หากวันนี้คุณเจอใครคนหนึ่งที่คุณรู้สึกดีเวลาอยู่ใกล้เค้า

อย่าแคร์ใคร

เพราะบางทีคุณอาจจะรักเค้าเข้าแล้วด้วยซ้ำ

อย่าลืมบอกเค้านะ ก่อนที่มันจะสายไป

แต่หากว่าคุณยังไม่เจอ อย่าลืม...จำไว้

“การลดทิฐิมานะ

ลดความเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองลง

เพราะความรักไม่ได้ต้องการให้มีใครแพ้ใครชนะ

ไม่มีใครผิดและไม่มีใครถูก

แต่ถ้าคุณคิดว่าชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญ

คุณคือนักพนัน ไม่ใช่นักกีฬา

อย่าเห็นความรักเป็นเกมกีฬา”

บางทีคนที่ “เค้ารักคุณ”

อาจจะรอฟังคำ ๆ หนึ่งจากคุณอยู่ก็ได้

สำรวจดูว่าใครคนนั้นอยู่ไกลหรือใกล้คุณหรือเปล่าในเวลานี้

อย่าทำทุกอย่างให้สายไปโดยที่คุณไม่ได้สร้างสรรค์อะไรขึ้นมาเลย

กฏน่ารักๆที่ทำให้คุณอมยิ้ม

จริงเหรอ เหตุการณ์รอบตัวบ่อยครั้งทำให้นึกน้อยใจในโชคชะตา เพราะมันมักเลวร้ายกว่าที่ควร เช่น ขับรถมาเป็นสิบปีไม่เคยชนอะไร แต่พอถูกขอร้องให้ถอยรถเพื่อนออกจากซอยไม่ถึง 30 เมตร กลับชนเสาไฟฟ้าโครมใหญ่ เหตุการณ์เลวร้ายเกิดเหมือนสวรรค์แกล้งนี้ เกิดบ่อยกับทุกคน จนมีผู้ตั้งเป็นกฎไว้ เรียกว่า "กฎของเมอร์ฟี่" ความว่า "ถ้ามันเคยผิดพลาด มันก็จะผิดซ้ำอีก" นอกจากกฎของเมอร์ฟี่ ยังมีกฎอื่นๆ ที่มีผู้สังเกตพบมากมาย สมควรรวบรวมไว้ดังนี้

1. กฎความเป็นไปได้ ขนมปังทาเนยที่พลัดตกพื้น จะเอาหน้าด้านที่มีเนยคว่ำลงเสมอ และโอกาสที่เนยตกเปื้อนพรม จะมีมากขึ้นเป็นสัดส่วนกับราคาของพรม

2. การดูดวง หมอดูมักทายหลายเรื่องทั้งดีและเลว แต่เรื่องที่แม่นที่สุดคือเรื่องที่เลวที่สุด

3. กฎแห่งความแม่นยำ หากขว้างก้อนหินสะเปะสะปะ มันจะพุ่งตรงเข้าหาวัตถุที่มีราคาแพงที่สุด

4. กฎของหาย ของใช้ที่เราเห็นทุกวันจะหายต่อเมื่อเราต้องการใช้มัน

5. กฎของเมธี เลขเด็ดที่เราไม่ซื้อ คือเลขที่จะออกงวดนั้น และหวยที่เราซื้อมักใกล้เคียงกับหวยที่ออก หากได้บวกลบคูณหารด้วยเลขอะไรสักตัว หรือกลับหน้ากลับหลัง แต่ถ้าเราซื้อเลขกลับ มันจะออกเลขตรง และถ้าเราซื้อทั้งสองแบบมันจะไม่ออกเลย

6. กฎแรงโน้มถ่วง วัตถุ 2 ชิ้นน้ำหนักไม่เท่ากันจะตกถึงพื้นด้วยความเร็วขนาดที่ทำลายทรัพย์สินได้มากที่สุดเท่าๆกัน

7. ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อหนังสือ หนังสือปกสวย เนื้อในมักห่วย หนังสือปกขี้เหร่ เนื้อในห่วยกว่า

8. กฎห้ามพูด คนไทยรู้จักกฎนี้ดี จนมีสุภาษิตว่า "เข้าป่าอย่าเรียกหาเสือ" กฎมีว่า ทันทีที่คุณพูดแสดงความคาดหวัง ถ้าหวังสิ่งเลวสิ่งเลวจะมาหา และถ้าหวังสิ่งดี สิ่งเลวก็จะมาหา

9. กฎของโฮว์ (Howe's Law) มนุษย์ทุกคนมักจะทำอะไรไม่สำเร็จ

10. กฎของไซเมอร์กี้ ถ้าคุณรื้อชิ้นส่วนออกมาประกอบใหม่จะมีน็อตเหลือเสมอ

11. ข้อสังเกตของอีตัวร์ รถเลนข้างๆ มักเคลื่อนตัวดีกว่าเลนของเรา

12. กฎการแก้ปัญหา ในปัญหาใหญ่ๆ ที่เป็นอุปสรรคให้เราแก้ มักมีปัญหาเล็กๆ อยู่ภายในซึ่งพร้อมจะขยายตัว แทนที่ทันทีที่ปัญหาใหญ่ได้รับการแก้ไขลุล่วง

13. กฎทอง คนมีทองคือคนออกกฎ

14. ธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์เรามีสองประเภทประเภทแรก คือ คนที่ชอบแยกคนเป็นสองจำพวก ประเภทที่สอง คือ คนที่รังเกียจพวกแรก

15. กฎยิ่งน้อยยิ่งดีของซีกัล คนที่มีนาฬิกาเรือนเดียว จะรู้เวลาแน่นอน คนที่มีนาฬิกาเพิ่มมาอีกเรือน จะไม่แน่ใจว่า เวลาใดถูกต้อง

16. กฎการใช้เวลาเหลื่อมล้ำ การเริ่มต้นงานเป็นสิ่งยาก เพราะงาน 90 % แรก จะกินเวลาไปถึง 90% ของเวลาในโครงการ ส่วนงาน 10% ที่เหลือจะกินเวลาอีก 90% ของเวลาในโครงการ

17. กฎของโอ'รีลลี สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ คือ การทำโต๊ะทำงานให้สะอาด

18. กฎของลีเบอร์แมน นักการเมืองทุกคนโกหก แต่ไม่เป็นไรเพราะไม่มีใครฟังใคร

19. กฎน้ำพริกถ้วยเก่า เสื้อผ้าตัวเก่งจะเก่าซอมซ่อทันทีที่เราได้ตัวใหม่

20. ข้อเท็จจริงขององค์กร ในทุกหน่วยงานมักมีพนักงานคนหนึ่งและคนเดียว ที่มองเห็นปัญหาที่แท้จริงขององค์กร และคนๆ นี้จะถูกไล่ออกเสมอ

21. กฎการโต้เถียง คนที่พูดน้อยคือคนที่รู้มาก

22. กฎการทำงานเป็นทีม เมื่องานยุ่งยาก ทุกคนผละหนี

23. กฎการมองโลก มนุษย์ สามสิบคนในร้อยคน ชอบมองโลกในแง่ร้าย ที่เหลือมองร้ายกว่า

24. กฏการประกันภัย เวลาขับรถ มักจะเจออุบัติเหตุรถชน ในวันที่ประกันชั้น 1 หมดอายุได้ 1 วัน

เทคนิคการออกเดท by Note Udom

สำหรับสาวๆที่กำลังจะมีเดทกับชายหนุ่มแล้วหล่ะก้อ.....................

นี่คงเป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆ สำหรับเพื่อนๆ นะค่ะ...

เนื่องจากเราได้ชายหนุ่ม

ซึ่งเป็นปุถุชนพูดจาดีมีศีล 5 มาคนหนึ่งแล้ว

เขาจะเป็นโรคช่างหมั่นโทรมาหาเราบ่อย ๆ จนคิดว่า

บุพการีมันต้องมีหุ้นส่วนในองค์การโทรศัพท์แน่ ๆ

และโทรมาแต่ละครั้งนั้น

ก็จะพูดจาจนมดเลี่ยนตาย เช่น "จ๊ะจ๋า..."

อะไรประมาณเนี้ยทำให้เริ่มแน่ใจอีกอย่างว่า

นอกจากจะมีหุ้นในองค์การโทรศัพท์แล้ว

ยังมีอาชีพเก็บน้ำหวานขายเป็นอาชีพเสริม...

เหตุการณ์อย่างนี้ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า

"ผู้ชายโทรมาจีบ "

แต่อย่าตกใจไป เขาไม่ได้โทรมาขายประกัน

แต่เขาจะโทรมาขอความรักต่างหาก

เค้าจะโทรมาวันละหลายๆ ครั้ง ถามสารทุกข์สุขดิบ

รายงานว่ากำลังทำอะไรอยู่หรือบางทีอาจจะรายงานสภาพการจราจร

จนถึงจุดหนึ่งแล้วเค้าจะชวนเราไปออกเดท...

หลายคนอาจดีใจมาก

ไม่คิดว่าเกิดมาชาตินี้จะได้ออกเดท

แต่ขอให้เก็บอาการไว้นิดนึง

อาจจะต้องตอบปฏิเสธไปก่อนเพื่อนให้ตัวเองมีค่า เช่น

"จะดีหรือคุณ......เราพึ่งรู้จักกันนะ" หรือ "

ฉันคงติดประชุมสมาคมผู้ค้าส่งสุกรส่งออกค่ะ"

ขอแนะนำให้เจอกันครึ่งทางคือ

การไปออกเดทรอบ Preview ก่อน

อาจจะเป็นเซเว่นหน้าปากซอย

ไปเดินป้อนบิ๊กเปาหน้าเคาท์เตอร์แคชเชียร์ เอา FootLong

มาไล่ตีกัน

เหอะๆ..กระหนุงกระหนิง

การไปเดทรอบ Preview นั้น

ก็ถือเป็นการทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจไปซัก 2-3 รอบ

ถ้าถูกใจค่อยออกไปเดทรอบจริง......แต่ทีนี้ก็มาถึงวันส! ำคัญ

สำหรับมือใหม่หัดเดท

ก่อนออกจากบ้านอาจจะรู้สึกประหม่าไม่มั่นใจ

เหมือนขาดผ้าอนามัยในวันมามาก

เสื้อผ้าอาจจะเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก

ยิ่งกว่านางแบบหลังแคทวอล์ก

หรือถ้าไม่ดีขึ้น

อาจจะลองไปวิ่งรอบวงเวียนใหญ่แบบทวนเข็มนาฬิกาสัก 7รอบ

จะหายตื่นเต้นเป็นปลิดทิ้ง (กลายเป็นเหนื่อยแทน)

การออกเดทแบบ Basic
> >

คือต้องไปดูหนังโรแมนติกถึงโรแมนติกคอมเมดี้เป็นอย่างต่ำ

เช่น Notting Hill หรือเถี่ยนมีมี่

เวลาดูจะได้ซ้ำอินไปกับหนังฉากที่พระเอกสารภาพรักกับเพื่อนนังอิจฉาในหนัง

ก็สวีทกันไปมือของเราทั้ง 2 ก็มาสัมผัสกันโดยบังเอิญในถุงป๊อปคอร์น

กระแสไฟฟ้าสถิตย์ก็สปาร์คขึ้น

เราทั้งคู่ชักมือออกจากถุงพร้อมกัน

ป๊อปคอร์นกระจายเต็มพื้น

ตาประสานกันและยิ้มให้กันโดยมิได้นัดหมาย

ตอนนี้แหละโรแม้นสุดๆ

! กรุณาค้างไว้นานๆ

ห้ามก้มเก็บป๊อปคอร์นที่ตกพื้นขึ้นมากินเด็ดขาด

เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราไร้อารยธรรม

พอออกจากโรงหนังถ้าเค้าถือโอกาสจับมือเรา

อย่าพึ่งให้เค้าจับนะครับ

เดี๋ยวสื่อมวลชนจะลงข่าวหาว่าเราใจง่าย

บอกกับเค้าว่าเราเพิ่งรู้จักกันอย่าพึ่งจับมือเลย

ถ้าเค้าเป็นคนไม่ใช่กระบือพูดดีๆ มีเหตุผลก็น่าจะเข้าใจ

แต่ถ้าพูดไม่ฟังแนะนำให้คลุกวงใน

แล้วตีเข่าสั่งสอนได้เลยและตามด้วยหนุมานถวายแหวนจะทำให้พูดง่ายขึ้น

ดูหนังเสร็จก็ต้องกินข้าว

ขอแนะนำให้กินอาหารที่กินหากดูดแรงไปจะทำให้เส้นบะหมี่ไปฟาดหน้าเค้า

เสียโฉมขึ้นมาล่ะแย่เลย

อีกอย่างก๋วยเตี๋ยวจะมีส่วนผสมของผักชีต้นหอม

กินเสร็จก็มักจะติดฟัน

ผมก็มีวิธีมาแนะนำ "กินอย่างไรให้สวย"

ขั้นแรกต้องสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำเส้นอะไรก็ได้แล้วแต่ชอบ

อันนี้ไม่บังคับ >

วิธีกินให้คีบก๋วยเตี๋ยวใส่ช้อนทีละประมาณ 2 ลูกบาศก์เซนติเมตร

แล้วค่อยๆ ประคองเข้าปากนั่นแหละ...อ้ำทีละคำ 2 คำสลับกับตักน้ำซุปแก้ติดคอ

แต่เดี๋ยวก่อน!

น้ำซุปอย่าพึ่งซดหมดนะคะ...เหลือติดชามไว้สัก 7 ลูกบาศก์เซนติเมตร

เอาไว้กลั้วปากป้องกันผักติดฟัน

หลังจากเที่ยวกันหนำใจแล้ว ก็ควรรีบกลับบ้าน เด็กดีปี 2000

ไม่ควรกลับบ้านดึกนะครับ เดี๋ยวพ่อแม่จะเป็นห่วง

แน่นอนเค้าต้องมาส่งเราถึงหน้าบ้าน

แต่ถ้าเค้าทำท่าทางเป็นอิดออดเราก็จำเป็นต้องใช้เสน่ห์หญิงสาว

300 เล่มเกวียนหลอกล่อให้เค้ามาส่งจนได้ (เพราะเป็นหญิงสาวไม่ควรกลับบ้านคนเดียว)

ก่อนลงจากรถควรมีคำพูดดีๆ

พูดกับเขาให้ประทับใจไปจนชั่วลูกชั่วหลาน เช่น

"เดี๊ยนไม่เคยสุดเหวี่ยงอย่างนี้มาก่อนเลยค่ะ" หรือ "คุณค่ะ...บ้านฉันอยู่อีกซอยค่ะ"

เพียงเท่านี้! เองก็จบวันแรกสำหรับมือใหม่หัดเดท! แล้วนะค่ะ...

******************************

เขียนจดหมายรักอย่างไรให้ถูกใจ

จะมีอะไรที่โรแมนติกมากไปกว่าการเขียนจดหมายรักหาคนพิเศษของคุณ อย่านะ อย่ามาพูดว่า แหม...เขียนทำไม เชยจะตาย รู้เอาไว้เถอะว่า การเขียนจดหมายรักนั้น ถึงแม้จะเก่า เชย ไม่เป็นที่ถูกรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความรวดเร็ว แต่จดหมายสามารถเอาชนะใจคนรักมาหลายคนมาแล้วนะจ๊ะ จะบอกให้

คุณอาจไม่มีพรสวรรค์อย่างเชคสเปียร์ที่สามารถพรรณนาความรักให้หวานหยดย้อน แต่คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองที่บอกเล่าความรู้สึกทั้งหมดที่มีกับคนที่คุณรักได้แน่

*-* ก่อนที่จะจรดปลายปากลงบนกระดาษ ตรวจดูก่อนะว่า กระดาษที่คุณกำลังจะเขียนลงไปนั้นเป็นแบบไหน ถ้าเป็นกระดาษจดงานหน้าตาธรรมดา หรือเป็นกระดาษเนื้อหนาที่หาความงามไม่ได้ ขอให้โยนมันออกไปจากตัวเลือกในใจสักครู่ มองหากระดาษสีสวย มีลวดลายถูกใจ หรือจะเลือกเป็นกระดาษสีพื้นที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณก็ได้เช่นกัน

*-* เพื่อให้การบรรยายความรักของคุณสมบูรณ์แบบ ลองเขียนโน้ตย่อเล็ก ๆ ถึงสิ่งที่คุณอยากบอกให้เขาหรือเธอคนนั้นได้รู้ คิดถึงคนที่คุณรักเข้าไว้ อยากบอกอะไรก็จดเป็นหัวข้อลงไป เวลาเขียนจริงจะได้ไม่งงว่า เอ๊ะ...นี่ฉันเขียนไปถึงไหนแล้ว

*-* คำขึ้นต้นประโยค หากใครที่ยังเขิน ๆ กับการเขียนจดหมายรัก ควรเริ่มด้วยประโยคยอดฮิต ‘ถึง.....ที่รัก’ แต่ถ้าต้องการความพิเศษมากยิ่งขึ้น ลองเปลี่ยนมาใช้คำพูดหรือความหมายที่คุณรู้กันแค่สองคน สิ่งที่ทำให้คุณทั้งสองรู้จักกันครั้งแรก คำพูด สถานที่ที่ทำให้เจอกัน อุบัติเหตุทางสายตา (เช่นเสื้อสีฟ้า ชุดเก่งของคุณ) เพื่อเวลาที่ได้อ่านครั้งแรก เธอต้องจำได้ว่าคุณกำลังต้องการบอกอะไร

*-* จดหมายรักฉบับนี้จะมีความพิเศษมากขึ้นหากแนบความทรงจำดี ๆ เข้าไป ตั๋วดูหนังที่ไปดูด้วยกันครั้งแรก ตั๋วรถเมล์ บิลค่าอาหารค่ำที่สุดพิเศษ หรือแม้กระทั่งนามบัตรใบแรกที่ทำให้รู้จักกัน

*-* บอกเล่าความทรงจำที่มีค่า วันเวลาที่คุณอยู่ด้วยกัน ความฝันและความหวังที่คุณอยากร่วมสร้างไปด้วยกัน

*-* ไม่มีกฎห้ามใด ๆ ไม่ให้คุณเขียนกลอนหรือแต่งเพลงลงไปในจดหมายรักฉบับนั้น สิ่งเหล่านี้ทั้งชีวิตคุณอาจไม่เคยทำและไม่คิดจะทำมาก่อน อย่างกลัวถ้าคิดจะลองทำ เขาหรือเธออาจประหลาดใจและดีใจสุด ๆ เลยก็ได้ที่คุณทำสิ่งเหล่านี้ให้

*-* อย่าลืมที่จะบอก ‘ผมรักคุณ’ เชื่อแน่ว่าผู้หญิงแทบทุกคนอยากได้ยินคำ ๆ นี้กันทั้งนั้น

*-* ตรวจสอบความถูกต้อง การสะกดคำ รอยเปื้อน รอยขีด รอยลบ ฯลฯ ถ้าพบคำผิดขอแนะนำให้เขียนใหม่แต่ต้น ห้ามนำความขี้เกียจมาครอบงำจิตใจ อย่าลืมว่าจดหมายฉบับนี้กำลังจะเป็นหลักฐานความรักของคุณที่มีอายุยาวนานที่สุด และจะถูกเปิดอ่านบ่อยที่สุดด้วย

*-* พับจดหมาย เก็บใส่ซองพร้อมส่ง จากนี้ก็รอดูปฏิกิริยาจากตัวเธอ หากคุณโชคดี คุณอาจได้จดหมายรักที่หวานไม่แพ้กันกลับมาก็ได้

ความสุขข้างล่าง

ถ้าโกรธกับเพื่อน.....มองคนไม่มีใครรัก
ถ้าเรียนหนักๆ.....มองคนอดเรียนหนังสือ
ถ้างานลำบาก.....มองคนอดแสดงฝีมือ
ถ้าเหนื่อยงั้นหรือ.....มองคนที่ตายหมดลม
ถ้าขี้เกียจนัก.....มองคนไม่มีโอกาส
ถ้างานผิดพลาด.....มองคนไม่เคยฝึกฝน
ถ้ากายพิการ.....มองคนไม่เคยอดทน
ถ้างานรีบรน.....มองคนไม่มีเวลา
ถ้าตังค์ไม่มี.....มองคนขอทานข้างถนน
ถ้าหนี้สินล้น.....มองคนแย่งกินกับหมา
ถ้าข้าวไม่ดี.....มองคนไม่มีที่นา
ถ้าใจอ่อนล้า.....มองคนไม่รู้จักรัก
ถ้าชีวิตแย่.....จงมองคนแย่ยิ่งกว่า
อย่ามองแต่ฟ้า.....ที่สูงเกินตาประจักษ์ ความสุขข้างล่าง.....
มีได้ไม่ยากเย็นนัก เมื่อรู้แล้วจัก.....ภาคภูมิชีวิตแห่งตน

การรอคอย.. ที่ไร้จุดหมาย

เคยรู้สึกไหม

ว่าการรอคอยอะไรบางอย่าง

โดยที่ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร

มันทรมานนะ

เคยรู้สึกรึเปล่า

บางครั้งเวลาที่เราคิดถึงคนที่เรารัก

ทำไมมันทำให้เราเศร้าได้ขนาดนี้

เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร

การตัดสินใจจะเป็นแบบไหน

บางครั้ง

เราอยากทิ้งทุกสิ่งเอาไว้

หยุดการรอคอยทุกอย่าง

แล้วเดินหนีจากไป

แต่หัวใจ

กลับกระซิบบอกเราว่า

พรุ่งนี้มันอาจจะดีก้อได้นะ

เรานิ่งคิดกับตัวเอง

เราควรจะเลือกทางไหน

เราควรจะรอ

หรือ

หยุดการรอคอยที่แสนทรมานนี้ซะที

เราตอบตัวเองไม่ได้

และเหนื่อยเกินกว่าที่จะพยายามหาคำตอบต่อ

อยากให้สาวปิ๊ง เป็นเรื่องไม่ยาก

Step 1 คุณเป็นคนมีปัญหา เรื่องการสื่อสารรึเปล่า ? ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่พูดจาโผงผางเหมือนขวานผ่านซาก หรือชอบพูดเสียงดัง ได้ยินถึงหน้าปากซอย หรือไม่ก็พูดค่อยเสียจนจับไม่ได้ใจความ หรือขาดความมั่นใจอย่างมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าสาว ๆ หรือพูดหวาน ๆ แบบคนอื่นเค้าก็ไม่ค่อยเป็น (ก็คนมันจริงใจนี่น่านะ…เลยต้องทำใจงัยค่ะ) อย่างนี้คุณต้องรีบเลยคะ ฝึกเสียใหม่ สาว ๆ ส่วนใหญ่จะชอบพุดคุย กับชายหนุ่มที่สุภาพ พูดจาหวานหู(ถึงแม้ว่าเรื่องที่คุณพูด จะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ควรโกหกเลยนะค่ะ) ไม่โว้กว๊าก โวยวาย เสียจนน่าเกลียด ไม่ขาดความมั่นใจ เหมือนยังเป็นลูกแหง่ หญิงสาวส่วนใหญ่มักจะชอบชายหนุ่มเท่ ๆ มีอารมณ์ขันนิด ๆ กะล่อนหน่อย ๆ (ขอย้ำว่านิดหน่อยก็พอ ถ้ามากไปจะเสีย Credit หมด)

Step 2 คุณให้ความสำคัญ กับการแต่งตัวบ้างรึเปล่า ? ถ้าคุณเป็นคนที่ยึดหลักใส่อะไรก็ได้ หรือว่ามีอะไรอยู่ในตู้เสื้อผ้าก็หยิบ ๆ มาใส่ ปีหนึ่งซื้อเสื้อผ้าใหม่ก็ตอนที่ห้างเค้าลดราคา หรือประมาณปีละครั้ง หรือจะทิ้งเสื้อผ้าเก่าก็ต่อเมื่อมันขาด และซ่อมไม่ได้แล้วจริง ๆ ถ้าหากคุณเป็นอย่างนี้ ต้องรีบเลยค่ะ การเป็นคนที่มีนิสัยประหยัดมัธยัสถ์ นั้นเป็นสิ่งที่ดี เราจะไม่ว่ากันหรอก แต่ถ้าหากมันมากเกินไป มันก็จะไม่ดีใช่ไหมค่ะ ในเรื่องของการแต่งกายนั้น เป็นเรื่องที่หนุ่ม ๆ ทั้งหลายไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

ปัญหาบางอย่าง อาจจะดูเหมือนเป็นหญ้าปากคอก เรื่องนี้ก็เช่นกันค่ะ การที่เราแต่งตัวอยู่กับบ้าน เราจะแต่งอย่างไรก็ได้ จะใส่เสื้อผ้า หรือไม่ใส่ หรือใส่แต่เก่ามาก ปะแล้วปะอีกก็ทำได้คะ แต่เมื่อใดก็ตามที่จะต้องออกไป พบปะผู้คนข้างนอก หรือออกไปพบสาวเจ้าตามร้านอาหาร คุณก็ต้องให้เกียรติเธอ ด้วยการแต่งกายให้เรียบร้อย แลดูสะอาด สุภาพ น่าเดินไปด้วยกัน โดยเฉพาะนัดครั้งแรกของคุณทั้งคู่ รับรองเลยคะว่า คุณผู้หญิงจะต้องแต่งตัวมาดี ซึ่งในที่นี้มิได้หมายความว่า ทั้งคุณ และเธอจะต้องโหมประโคม แต่งกันเข้าไปตามแฟชั่น ที่กำลังอินอยู่ในตอนนี้ หากแต่เป็นการแต่งกาย ที่เหมาะกับกาล เทศะ โอกาส และสถานที่ที่คุณจะมีเดทด้วยกันค่ะ บางครั้งการแต่งกายที่ดี ที่ส่งเสริมบุคลิกภาพของคุณ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สาว ๆ เหลียวมามองก็ไปได้นะค่ะ

Step 3 คุณว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษในฝัน ของสาว ๆ หรือไม่ ? ถ้าคุณรู้สึกว่าผู้ชาย กับผู้หญิงนั้นมีสิทธิ ฐานะเท่าเทียมกัน หรือรู้สึกว่าไม่ต้อง Treat หรือ Spoil เค้ามากหรอก หรือรู้สึกว่าผู้หญิง ต้องหัดช่วยตัวเองซะบ้าง (อ ะ อ ะ ไม่ใช่ในแง่นั่นหรอกนะ อย่าเพิ่งคิดไปไกลซิค่ะ) คุณต้องปรับเปลี่ยนซะหน่อยแล้วคะ (จะไม่เปลี่ยนก็ได้นะ ถ้าคุณไม่อยากจะมีเปรี้ยวใจ เหมือนนิโคลเค้าบ้าง) เพราะถึงแม้ว่าผู้หญิง จะออกมาเรียกร้องความเท่าเทียม หรือความเสมอภาพกับผู้ชาย แต่ในส่วนลึก ๆ ๆ ของพวกเรายังคงมองหาชายในฝัน หรือคนที่เป็นสุภาพบุรุษอยู่ดี การให้เกียรติเพศแม่นั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเลยไม่ใช่หรือค่ะ

ถ้าคุณทำได้หรือแม้แต่เริ่มจากจุดเล็ก ๆ โดยการถือนโยบาย Lady first แบบสมัยก่อน คุณก็จะเป็นคนหนึ่งที่มีสาว ๆ เทคะแนนให้ เยอะกว่าเพื่อนแน่นอนเลยคะ แต่การกระทำเหล่านั้นไม่ควรจะ ทำเพียงแค่ต่อหน้าเจ้าหล่อนเท่านั้นนะค่ะ คุณควรจะทำให้เป็นนิสัย ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือหลับหลังเธอก็ตาม คุณควรจะให้เกียรติเธอเสมอ ๆ

ถ้าคุณหนุ่ม ๆ ปรับเปลี่ยนได้ดังนี้ รับรองคะว่าในไม่ช้าจะไม่มีกรณีอย่างนายแม้น ที่ต้องทนแห้วอยู่ถึง 10 ครั้งกว่าจะได้พบคนที่เข้าใจ และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่ ชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาอย่าง แบรด พิทท์ หรือกระชากใจสาว ๆ ได้อย่างริชาดร์ เกียร์ แต่คุณก็จะกลายเป็นชายหนุ่ม ที่น่าสนใจคนหนึ่งทีเดียวเลยนะค่ะ (คราวนี้ ไม่ต้องวิ่งไปจีบสาวเหมือนเดิมแล้ว สาว ๆ จะเดินมาตกหลุมอยู่ตรงหน้าคุณเองเลยค่ะ) ขอให้โชคดี มีคนมาตกหลุมไว ไว นะค่ะ

10 เรื่องสำหรับสาวๆ ที่ห้ามคุยกันในเดทแรก

ออกเดทในวันแรก คุณอาจนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรดี ขอแนะนำว่าให้คุยเรื่องหนัง ดนตรี กีฬา หรือเรื่องอะไรก็ได้สนุกๆ แต่ที่สำคัญก็คือ 10 เรื่องต่อไปนี้ ที่ห้ามหยิบยกมาคุยกันเด็ดขาด

ความอ้วน

มันทำให้ต่างคนต่างไม่มั่นใจในรุปร่างตัวเอง ดีไม่ดีอาจคิดว่า อีกฝ่ายหาว่าเราอ้วนก็ได้ เลี่ยงไปเลยดีกว่า แฟนเก่า ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึง

แฟนเก่า

เพราะมันทำให้รู้สึกว่า เราเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาเกินไป เรื่องนี้เก็บไว้คุยกันวันหลัง

เงิน

คุยเรื่องนี้มากเกินไป อาจทำให้เขาคิดว่า คุณให้ความสำคัญของเงินมากกว่าเรื่องอื่นๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วคุณแค่ประหยัดเฉยๆ

เซ็กซ์

เก็บไว้คุยตอนที่สนิทสนมกันมากกว่านี้จะดีกว่า ขืนคุยกันตั้งแต่เดทแรก อาจทำให้เขามองคุณแปลกได้ สารภาพผิด ไม่ว่าคุณจะเคยทำอะไรผิดพลาดมาก่อน นี่ไม่ใช่วันที่จะมาสารภาพผิด คุณไม่จำเป็นต้องบอกความลับนี้กับเขา

ศาสนา

เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ถ้าอยู่กันคนละศาสนา คุยไปคุยมาอาจทำให้ทะเลาะกันได้ นี่เป็นเรื่องต้องห้ามเชียวล่ะ

สุขภาพ

ไม่ต้องเล่าให้เขาฟังหรอกว่า คุณมีโรคประจำตัวอะไร เขาไม่ได้เป็นหมอส่วนตัวของคุณสักหน่อย

การเมือง

อาจทำให้เขารู้สึกว่าคุณซีเรียสเกินไป เผลอๆ อาจทำให้เดทแรกหมดสนุกไปได้เหมือนกัน อกหัก คุณอาจเคยมีประสบการณ์รักอกหักมาแล้ว แต่เพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ ก็ไม่ต้องไปเล่าให้ฟังหรอก

แต่งงาน

เรื่องนี้อาจทำให้เขารู้สึกว่า คุณเตรียมจะผูกมัดเขามากเกินไป ระวังเขาจะตกใจกลัวซะก่อน

วิธีจัดการกับอารมณ์โมโหร้าย

แม้ว่าอารมณ์โกรธ โมโห จะเป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา แต่ว่าบางครั้งเราก็มักได้เห็น (หรือบางคนอาจเป็น...) คนที่โมโหร้าย คือ มีอารมณ์โมโหเมื่อใดเป็นต้องระเบิดอารมณ์ออกมา ด้วยการขว้างปาข้าวของ ทำร้ายตนเองหรือคนอื่นๆ อย่างไร้สติ

ถ้าสิ่งที่ระเบิดออกมาในห้วงเวลาที่ถูกความโมโหครอบงำนั้นไม่ทำให้เกิดความเสียหายมากนัก ก็นับเป็นโชคดี แต่บางทีก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ดังคำสอนทางพุทธศาสนาที่กล่าวไว้ว่า “โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า”

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ “โมโหร้าย” และคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนอารมณ์เย็นลงบ้าง จะลองทำตามแนะนำต่อไปนี้ดูบ้างก็ได้ เผื่อบางทีคุณอาจได้ค้นพบบางอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเองมาเนิ่นนาน


เมื่อรู้สึกโกรธหรือโมโห
- พยายามบอกตัวเองให้หยุดคิดสักนิดหนึ่ง
- สูญลมหายใจเข้าลึกๆ หายใจช้าๆ นับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ
- พาตัวเองออกมาจากแหล่งกำเนิดอารมณ์โกรธ เพราะวิธีนี้จะช่วยลดอารมณ์โกรธหรือโมโหให้น้อยลง และยังเป็นการตัดโอกาสที่จะกระทำเรื่องราวที่รุนแรงลงไปได้
- ระบายอารมณ์โกรธด้วยวิธีการที่เหมาะสม เช่น เดินปลดปล่อยอารมณ์ วิ่งไปเรื่อยๆ ชกกระสอบทราย บิดผ้าแรงๆ หรือฝนดินสอสีให้หนักๆ แล้วแต่ว่าทำสิ่งใดแล้วช่วยให้ความโกรธที่พรั่งพรูอยู่ในหัวใจลดร่วงลงได้ แม้ไม่โกรธหรือโมโห

คุณก็สามารถฝึกตนให้เป็นคนอารมณ์เย็นได้ทุกๆ วัน ด้วยการผ่อนคลายความเครียดอยู่เสมอๆ โดยการพักผ่อนให้เต็มที่ ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ เพื่อกระตุ้นร่างกายและจิตใจกระปรี้กระเปร่า แจ่มใส ไม่หงุดหงิด และโกรธง่ายเหมือนก่อน ถ้าสามารถฝึกสมาธิได้ก็จะเป็นการดี เพราะจะช่วยให้จิตใจสงบและเยือกเย็นลงด้วย

....บางครั้งการจัดการกับอารมณ์ร้ายๆ ของตัวเองได้สำเร็จก็เป็นเหมือนชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในหัวใจดวงน้อยๆ เลยทีเดียว... ถ้าไม่เชื่อ

...จะลองดู ก็ไม่ผิดกติกา

จีบเธออย่างไรให้ใจอ่อน

จีบผู้หญิงสมัยใหม่ต้องใจกล้า จีบผู้หญิงมารยาอย่าใจร้อน จีบผู้หญิงไก่แก่ต้องแง่งอน จีบผู้หญิงใจอ่อนต้องผ่อนตาม หากการจีบผู้หญิงง่ายดังที่บทกลอนว่า หนุ่มๆคงใจกล้าสละโสดกันเป็นว่าเล่น หากแต่เพราะการเข้าถึงใจกันเป็นเรื่องซับซ้อน ลองดูวิธีต่างๆนะคะ

1. เข้าหาแบบไหน ให้เธอใจอ่อน เรื่องง่ายๆที่ผู้หญิงอยากได้ แต่ผู้ชายมองข้าม นี่คือคำเฉลยวิธีที่ควรปฎิบัติกับผู้หญิงที่หมายตา มันช่างง่ายดายซะจนถูกมองข้ามเลยนะคะ

2. นักฟังที่ดี บางครั้ง สิ่งที่ผู้หญิงอยากได้ไม่ใช่คำพูดที่สื่อออกมา แต่กลับเป็นกิริยาของการฟังอย่างสนใจและตั้งใจของเขา การฟังอย่างสนใจทำให้ชีวิตรักดูสดชื่นขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างมีความใส่ใจซึ่งกันและกัน

3. เป็นกำลังใจ เมื่อผู้หญิงรู้สึกโดดเดี่ยว เธอก็จะรู้สึกว่าโลกทั้งใบไม่มีใครเคียงข้าง และนั่นคือชนวนความร้าวฉานอื่นๆที่จะตามมา ถ้าผู้ชายใส่ใจ และรู้จักสนับสนุนให้กำลังใจ ชีวิตคู่จะรื่นกว่าที่คิด

4. เก็บรายละเอียด ลองชมถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวคู่รัก แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็จะแสดงออกถึงความสนใจในตัวเธอดีขึ้น

5. ไม่ลืมเรียนรู้ การให้โอกาสทั้งสองฝ่ายเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ปรับตัวเข้าหากันถือเป็นสิ่งจำเป็น คู่รักควรได้มีโอกาสเปิดใจบอกว่าอะไรบ้างที่คุณและเธอได้เรียนรู้จากกันและกัน เช่น นิสัยหรือบุคลิกภาพของกันและกัน ซึ่งอีกฝ่ายอยากนำไปปรับให้ชีวิตสมบูรณ์มากขึ้น

6. ปกป้อง ความอบอุ่นและการเป็นคนที่มีจิตใจดี เอื้อเฟื้อ อาทร เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการและอยากได้จากผู้ชาย สิ่งนี้จะทำให้ผู้หญิงภูมิใจในตัวคุณ เคล็ดลับง่ายๆแบบนี้ นอกจากจะทำให้ผู้หญิงรู้สึกชื่นชม ใจอ่อน แล้วยังช่วยให้ความรักที่จะมีต่อๆไปไม่จืดจางลงอีกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นจีบเธอได้แล้วก็อย่าลืมทำแบบเดิมให้เสมอต้นเสมอปลายด้วยนะคะ

สัญญาณของความรัก...


ถ้ามีตั้งแต่ 5 ข้อขึ้นไป... แสดงว่ารักชัวร์

เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากคุยกับเค้า...แต่ไม่กล้าปริปาก

เมื่อใดก็ตามที่คุณอยู่ใกล้ๆเค้าแล้วมีความสุข

เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากเห็นหน้าเค้าทุกเวลา

เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากตามเค้าไปทุกหนทุกแห่ง

เมื่อใดก็ตามที่คุณแอบมองเค้าเวลาเผลอ

เมื่อใดก็ตามที่คุณแอบยิ้มชื่นชมเค้าอยู่ห่างๆ

เมื่อใดก็ตามที่คุณไม่กล้าสบตาเค้าเมื่อเจอกัน.....

เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากให้เค้ามีความสุข..โดยลืมมองตัวเอง

เมื่อใดก็ตามที่คุณใจเต้นรัว..และทำตัวไม่ถูก..เวลาเจอเค้า

เมื่อไรก็ตามที่คุณคิดถึงเค้าตลอดเวลา

เมื่อไรก็ตามที่คุณเห็นเค้าสนุกสนานอยู่กับคนอื่นแล้วคุณอยากเข้าไปร่วมวงด้วย

เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากจะดูแลเค้าไปตลอดกาล.....

เมื่อใดก็ตามที่คุณรับเค้าได้ในทุกอย่างที่เป็นตัวเค้า..ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงข้อบกพร่องของเค้า

เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากครอบครองเค้าไว้คนเดียว

เมื่อใดก็ตามที่คุณมีกันและกัน..แล้วไม่คิดจะมองหาคนใหม่ที่ดีกว่า



......คุณรักเค้าแล้ว.... เชื่อเถอะ ....

ทีเด็ดจีบหญิงให้อยู่หมัด

1. อย่าคบเธอเหมือนเพื่อน เดี๋ยวเธอจะเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นแค่เพื่อน หรือไม่ก็เป็นกิ๊กคนหนึ่งของเธอเท่านั้น ถ้าคุณพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอก่อนความรักจะก่อตัวขึ้น เธอก็จะคิดว่าคุณเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งทันที ยิ่งนานวันไป ความสัมพันธ์ควรจะเบ่งบาน แต่มันก็บานได้แค่ความเป็นเพื่อน ไม่ก้าวถึงความเป็นแฟนสักที ดีไม่ดีโดนคนอื่นคว้าไปอีก ฉะนั้น ถ้าคิดจะคบเธอเป็นแฟน ก็จงคบแบบแฟนตั้งแต่เริ่มแรกเลยครับ

2. ทำเซอร์ไพรส์เธอบ้าง ผู้หญิงน่ะชอบเรื่องเซอร์ไพรส์ ต่อให้เธอปากแข็งแค่ไหน เชื่อเถอะว่าเธอชอบความตื่นเต้นเร้าใจ และลึกลับ มากกว่าที่จะรู้จักคุณหมดไส้หมดพุง เพราะอย่างนั้น มันก็เหมือนหมดความน่าตื่นเต้นในตัวเองน่ะซิครับ ให้ข้อมูลตัวคุณกับเธอบ้างบางครั้ง กระตุ้นให้เธออยากรู้อยากเห็น อย่าให้เธอรู้เชียวว่าคุณกำลังเดินหมากอย่างไร สร้างความประทับใจและยวนใจเธอไว้ครับ แล้วเธอจะเดินเข้ามาหาคุณเอง

3. เป็นฝ่ายอยู่นิ่งๆ ไม่ใช่ฝ่ายไล่ตาม อย่าเคลื่อนไหวก่อน ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว การที่คุณจะรุกหญิงสาวสักคนหนึ่งก่อน พึงตระหนักไว้ว่า มันอาจทำให้เธอรำคาญได้ง่ายๆ อยู่นิ่งๆ แล้วหยั่งเชิงก่อนว่าเธอสนใจคุณหรือเปล่า หรือคุณสนใจเธอจริงหรือเปล่า ถ้าใช่ ค่อยๆ เผยให้เธอรู้ทีละน้อย แต่อย่าอ่อยนานนักล่ะครับ เดี๋ยวเธอจะหลุดหายไปจากวงโคจรเสียก่อน

4. หันมาสนใจตัวเองบ้างนะครับ เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเอง ด้วยกลิ่นกายที่หอมกรุ่น ผิวพรรณที่ชวนมอง อ้าว! ว่าไม่ได้ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาดูผู้ชายที่ผิวพรรณด้วยนะ ประเภทผิวหยาบกร้าน ยอมรับว่ามีบางกลุ่มที่ชอบ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นหนุ่มผิวดี มักเข้าตากรรมการสาวมากกว่า ที่สำคัญคือลมหายใจและกลิ่นปากต้องสดชื่น แต่งตัวสะอาดชวนมอง ประเภทเฮฟวี่น่าจะหมดยุคไปแล้วนะครับ แต่งให้ดูแล้วน่าคบหาสมาคมและดูสุภาพไว้ก่อน น่าจะเรียกคะแนนความนิยมได้ง่ายกว่า

5. มีอารมณ์ขัน ผู้หญิงน้อยคนจะชอบผู้ชายที่เต็มไปด้วยความเครียด ยิ่งเครียดเธอก็ยิ่งเบื่อหน่าย พวกเธอชอบผู้ชายที่มีอารมณ์ขัน เพราะจะทำให้ชีวิตเธอสนุกสนาน ไม่ซีเรียส ยิ้มเข้าไว้ครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นหนุ่มยิ้มเก่ง มารยาทสุภาพ รู้จักกาลเทศะ อย่าว่าแต่จะชนะใจเธอเลยครับ ชนะใจไปถึงครอบครัวเธอได้ง่ายๆ ด้วย เรื่องนี้เขาสำรวจกันอย่างจริงจังมาแล้วพบว่า ผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะคำนึงถึงความสำคัญของอารมณ์ขันของชายหนุ่มเป็นเรื่องแรก ฉะนั้นทิ้งมาดเก๊กหล่อไว้ แล้วเอาอารมณ์ขันมาสร้างสีสันให้กับคนที่คุณอยากได้เป็นแฟนแทนได้แล้วครับ

6. คิดให้ดีและถี่ถ้วนก่อนนะครับ อย่าเพิ่งคิดว่าเธอคือคนที่ใช่แน่ๆ จากที่ออกเดทด้วยกันเพียงไม่กี่ครั้ง อาจเป็นได้ว่าคุณแค่เพ้อไปช่วงหนึ่งเท่านั้น ช่วงเพ้อนี่แหละที่จะทำให้คุณตามัวหมอง อะไรก็ดีไปหมด นึกว่าเธอใช่แน่นอน ขอย้ำเตือนว่า ใช้เวลาสักนิด ตอบคำถามกับตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า เธอคนนี้...ใช่คนที่คุณรักมากที่สุดแล้วหรือเปล่า, เธอคนนี้...ใช่คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของคุณหรือเปล่า และเธอคนนี้...ใช่คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกคุณหรือเปล่า ใช้เวลาในการตัดสินใจสักพักนะครับ อย่าด่วนได้ใจเร็วเหมือนวัยรุ่นนักเลย คุณกำลังจะหาแฟนนะครับ ไม่ได้จะหากิ๊ก ฉะนั้น เลือกให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาครอบครัวในภายหลัง

รักแบบไหน มาไวไปไว

ความรักกว่าจะแตกยอด ผลิดอกออกผล ต้องอาศัยเวลานานอยู่ แต่รักที่มาหาอย่างรวดเร็วก็พอมี อ๊ะๆ แต่อย่าดีใจไป รักมาเร็วได้ ก็ไปเร็วได้เช่นกัน

รักในสถานบันเทิง

แสงไฟวูบวาบในสถานบันเทิง อาจทำให้เราสวย หล่อได้ แถมยังได้แอลกอฮอรืย้อมใจอีกต่างหาก แต่ลองเจอกันในแสงธรรมชาติ หรือนอกฟลอร์เต้นดูวิ อาจเห็นอะไรได้ชัดกว่า แล้วจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาเห็นแต่ภาพลวงตาเท่านั้นเอง



รักออนไลน์

แม้จะมีหลายคู่ที่รักกันยืนยาว โดยพบรักผ่านโลกไซเบอร์ แต่ก็มีอีกหลายคู่เช่นกันที่สร้างภาพเจ้าปลอมของตนขึ้นมาที่หน้าจอ แต่พอมาเจอตัวเป็นๆ เปิดเผยตัวตนแท้ๆ ให้เห็น มีมากมายเชียวที่รับกันไม่ได้



รักหลงรูป

ความหล่อ ความสวย อาจไม่ได้หายไปในสอง สามวัน แต่ถ้าลองนึกไกลไปถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุฉับพลันที่ทำให้หมดหล่อ หมดสวยขึ้นมา รักอันเกิดจากแค่หลงรูปกายภายนอก อาจถึงคราวมอด



รักเพราะเหงา

การรับใครเข้ามาในชีวิตเพราะความเหงา ทำให้เราลดมาตราฐานในการรักใครสักคนไปด้วย แบบ "ใครก็ได้ มาช่วยให้ฉันหายเหงาทีเถอะ" พอหายเหงาขึ้นมา จึงตาสว่างว่า ฉันไม่ได้รักคนแบบนี้นี่น่า จึงต้องรีบเลิกไปตามระเบียบ



รักเงินในกระเป๋า

ความรักแบบนี้ จะไปเร็วหรือช้าแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความมั่นคงของกระเป๋าสตางค์ด้วย พูดง่ายๆ คือ เงินยังมี รักยังมา เงินหมด รักเมิน ประมาณนั้น



รักแบบกิ๊กๆ

รักกับกิ๊ก ช่างคลิกกันง่ายเหลือเกิน แต่กิ๊กก็ไม่ต่างจากแฟชั่น ที่มาเร็ว ไปเร็ว แค่แฟนตัวจริงจับได้ ก็ต้องไปแล้ว ตามกฎของการมีกิ๊ก (เอ้อ! รักแบบกิ๊กก็ไม่ต่างอะไรจากรักแบบชู้หรอกนะ)



รักสร้างภาพ

เพื่อนมีแฟนกันหมดแล้ว จะเสียหน้าโสดอยู่คนเดียว ให้ดูมีปมด้อยได้ไง จึงต้องหาใครมาควงอวดเพื่อนบ้าง แต่คนเราจะทนเหนื่อย กับการคบใครที่ไม่ได้รัก เพื่อสร้างภาพไปได้สักกี่น้ำกันเชียว

15 ความลับของภาษากาย

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ประสบปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเข้าหาสาวนางใด ก็ไม่มีใครเค้าให้ความใส่ใจ เป็นพิเศษเลย หรือแค่เพียงอยากอยู่ใกล้ ๆ สาวเจ้าก็กระเถิบถอยห่าง ออกไปทุกครั้ง ทำเหมือนกับว่า อันตัวเรานี้น่ารังเกียจเป็นหนักหนา ไม่ว่าคุณจะประสบปัญหา เหล่านี้มากหรือน้อย ก็ตาม ลองตอบคำถามเหล่านี้ดูซิคะว่า บุคลิกภาพของคุณนั้น ต้องเริ่มปรับเปลี่ยน ตรงจุดไหนบ้าง เพื่อที่จะให้สาวปิ๊ง ; ) เมื่อได้พบใครสักคนที่ถูกตาต้องใจ เรามักจะกังวลเสมอว่าควรจะวางตัวอย่างไรเพื่อให้เขารู้ว่าเราสนใจเขาแต่ไม่แสดงออกให้โจ่งแจ้งเกินไป ลองมาดูทริคเล็กน้อยเหล่านี้กันเถอะ

1. ใช้เวลากับเขาให้นานเป็นพิเศษ แสดงออกถึงความห่วงใย
2. พูดคุย และหว่านเสน่ห์เล็กน้อย
3. จ้องตาเขาเวลาพูดคุยเพื่อแสดงความสนใจเต็มที่ และสนุกกับสิ่งที่เขาพูด
4. สบตากันคือสัญญาณที่ดี พยายามยิ้มและแกล้งหยอกเกี่ยวกับการออกเดทกันสองต่อสองแบบทีเล่นทีจริง ถ้าได้รับผลตอบกลับดีก็แสดงว่าเขาก็มีใจให้เราบ้างล่ะ
5. ทำตัวสนิทสนมเป็นพิเศษกับคนที่คุณสนใจ เมื่ออยู่ในงานเลี้ยงส่งยิ้มพิเศษให้เขา ในเมื่อผู้ชายสามารถเป็นคนเริ่มก่อนได้ทำไมผู้หญิงจะทำบ้างไม่ได้ กล้าเข้าหาเขาก่อน และลองจินตนาการบทสนทนาที่จะทำให้เขาสนใจชวนคุณไปไหนต่อตามลำพัง
6. สัมผัสตามมือและแขน รับฟังสิ่งที่เขาพูดอย่างตั้งใจ
7. หาโอกาสคุยกับเขาทุกครั้งที่มีโอกาส หว่านเสน่ห์ พูดคุยในเรื่องทั่ว ๆ ไป โดยไม่ทำให้เขารู้สึกว่าคุณสนใจเขามากจนเกินไป
8. พยายามสบตา และพาตัวเองให้อยู่ในเหตุการณ์ที่จะได้อยู่กับเขา แล้วจะได้ถือโอกาสทำความรู้จักกัน
9. เวลากอดทักทายกันทอดเวลาให้นานขึ้นก่อนผละจากกัน นวดหลังและไหล่เมื่อเธอเกิดอาการปวดเมื่อย 10. บอกเขาตรง ๆ ไปเลย ว่าเขามีเสน่ห์ดึงดูดใจ แล้วคุณจะสามารถตัดสินพวกเขาจากสิ่งที่เขาแสดงออกตอบต่อคุณ
11. ช่วยเปิดประตูให้เธอ และพาเธอไปเดทในที่หรู ๆ หน่อย ถ้าชอบเธอมาก ๆ ก็รอจนกระทั่งการเดทครั้งแรกจบลงแล้วจึงจูบเธอ สัญญาณอีกอย่างที่บอกได้ว่า ผมชอบเธอก็คือการชวนออกเดทรอบต่อไป
12. มองตรงไปที่เขา ยิ้มให้มาก ให้ความรู้สึกสัมผัสได้ แต่ไม่ปล่อยตัวจนเกินไป หัวเราะไปกับเรื่องตลกของเขา
13. ส่งดอกกุหลาบ, โคลงกลอน และชวนเธอไปเดท
14. หว่านเสน่ห์ด้วยคำว่าเป็นเพื่อน
15. ยิ้ม หัวเราะ รับฟัง พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เขาชอบ เช่น งานอดิเรก ความฝัน ชีวิต หรืออะไรก็ตามที่ทำให้พวกเขาเกิดความกระตือรือร้น มันทำให้เขารู้สึกว่าคุณสนใจเขาอย่างจริงใจ

49 อย่างที่ควรทำเมื่ออยู่กับคนรัก

1. ดูพระอาทิดตกดินด้วยกัน
2. กระซิบถึงกันและกัน
3. ทำอาหารให้กัน
4. เดินท่ามกลางฝนตก
5. จับมือ
6. ซื้อของขวัญให้กัน
7. ดอกกุหลาบ
8. ถามว่าน้ำหอมสุดโปรดคือกลิ่นไหน และใช้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน
9. เดินริมทะเลตอนเที่ยงคืนด้วยกัน
10. เขียนกลอนให้กัน
11. การกอดคือยาที่ดีที่สุด
12. พูดว่า" รักเธอ" ตอนที่รู้สึกว่ารักจริงๆ และทำให้เค้ารู้ว่าเรารู้สึกรักจริงๆ
13. ให้ของขวัญเล็กๆ ดอกไม้/ลูกอม/กลอน
14. บอกเธอ/เขา ว่าเธอ/เขา คือผู้หญิง/ผู้ชาย ที่คุณต้องการมากที่สุด
15. อยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
16. มองตากันและกัน.
17. (เฉพาะผู้ชาย) ดันคางเธอขึ้นเบาๆ มองตาเธอ บอกว่ารักเธอมากที่สุด และจูบเธอเบาๆ " เบาๆ" ล่ะ
18. ในที่สาธารนะชน แค่จีบกันเฉยๆ อย่าทำอย่างอื่น
19. ใส่จดหมายรักในกระเป๋าเขา/เธอ เมื่อเธอ/เขาไม่เห็น
20. ซื้อแหวนให้เธอ(เฉพาะผู้ชาย)
21. ร้องเพลงให้กันและกัน
22. (เฉพาะผู้ชาย) โอบกอดเธอตรงสะโพกเสมอ
23. พาไปกินข้าว2ต่อ2
24. กินสปาเก็ตตี้ (เคยดูเรื่องทรามวัยกับไอ้ตูบมั๊ย)
25. (เฉพาะผู้ชาย)จับมือเธอ มองตาเธอ จูบมือเธอแล้ววางไว้บนหัวใจ
26. เต้นด้วยกัน
27. (เฉพาะผู้หญิง) เวลาอยู่ด้วยกัน นอนตักเขา
28. ทำเรื่องน่ารักๆ เช่น เขียนว่า "ฉันรักเธอ" ในโน๊ต
29. หาเรื่องมาเรียกเธอ/เขา ทุกๆ5นาที
30. ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน โทรไปหาเขา/เธอ และบอกว่า" ฉันรักเธอ"
31. โทรจากสถานที่ๆคุณไปเที่ยวและบอกว่าคุณคิดถึงเขา/เธอ เสมอ
32. จำฝันของคุณและเล่าให้เขา/เธอ ฟัง
33. บอกความกลัวและความลับสุดยอดของคุณให้เธอ/เขา ฟัง
34. ทำดีกับพ่อแม่ของเธอ/เขา
35. (เฉพาะผู้ชาย) ลูบผมออกจากใบหน้าของเธอเบาๆ " เบาๆ" ล่ะ
36. ไปเที่ยวกับเพื่อนของเธอ/เขา
37. ไปวัด/อธิษฐาน/สาบาน ด้วยกัน
38. พาไปดูหนังโรแมนติคและจำส่วนที่เธอ/เขาชอบ
39. เรียนรู้กันและกัน และอย่าทำผิดแบบเดิมเกิน2ครั้ง
40. บอกว่าคุณรู้สึกดียังไงที่ได้อยู่กับเธอ/เขา
41. เสียสละให้กันและกัน
42. รักกันมากๆ ถ้าไม่อย่างนั้นก้อเลิกกันไปเลย
43. ทำให้ไม่มีนาทีไหนที่คุณไม่คิดถึงเขา/เธอ
44. รักตัวเองก่อนที่จะไปรักใคร
45. หัดพูดคำหวานๆในภาษาอื่น
46. ขอเพลงให้เขา/เธอ ในวิทยุ
47. หลับคาโทสับด้วยกัน
48. ปกป้องเธอ/เขา เมื่อคนอื่นพูดอะไรไม่ดีต่อเขา/เธอ
49. ห้ามลืมการจูบgood night และพูดว่า" ฝันดีนะ" เสมอ

หนุ่มแบบไหน... ที่สาวๆ ปฏิเสธไม่ลง

แม้นิสัยของผู้ชายจะแตกต่างกันออกไป แถมพฤติกรรมบางอย่างถึงกับทำเอาสาวๆ ถึงกับต้องบอกเลิก แต่ขอยืนยันคุณสมบัติผู้ชายทั้ง 7 ประเภทนี้ว่า ไม่มีทางที่สาวๆ อย่างคุณ จะปฏิเสธพวกเขาได้แน่นอน หนุ่มโรแมนติก ก็เพราะผู้หญิงทั้งโลกชอบการดูแลเอาใจใส่ และความโรแมนติก โดยเฉพาะ จากคนข้างกาย จึงไม่ต้องแปลกใจที่ ผู้หญิงคนไหนมีแฟนเป็นผู้ชายประเภทนี้ จะทำเอาเพื่อนสาวรอบๆ ข้าง ต้องออกอาการอิจฉาตาร้อน ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น วางการ์ดบอกรักในวันพิเศษของคุณ หรือโทร.หาเพื่อบอกความคิดถึงเมื่อยามอยู่ไกลกัน หรือเซอร์ไพรส์ชนิดหัวใจแทบวาย อย่างแหวนเพชรเม็ดเป้ง แต่ที่สำคัญหนุ่มประเภทนี้ จะชอบสบตาคุณตรงๆ พร้อมบอกความรู้สึกแห่งรักจากใจจริง หนุ่มสุดมั่น เพราะความมั่นใจของเขาเอง ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกอบอุ่น และรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้พึ่งพิงได้ ผู้ชายประเภทนี้จะมีพลังและอำนาจบางอย่าง ในการทำให้คนรอบข้างยอมสยบ แต่หากพูดถึงความรักระหว่างเขากับคุณ ให้เชื่อเลยว่า เพื่อนๆ คุณไม่กล้าปฏิเสธที่จะรับเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกก๊วนคุณแน่นอน หนุ่มอาร์ติสท์ ธรรมชาติของสาวๆ มักจะออกอาการปลื้มเป็นพิเศษ เมื่อได้เป็นคนพิเศษของใครซักคน โดยเฉพาะ การได้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงานศิลปะของศิลปินหนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจในการวาดภาพ หรือการแต่งเพลง และยิ่งหนุ่มคนนั้นลงมือวาดรูป หรือแต่งเพลงให้คุณในฐานะคนพิเศษ สาวคนไหนหรือจะปฏิเสธหนุ่มอาร์ติสท์ได้ลง หนุ่มต่างแดน โดยเฉพาะ ฝรั่งตาสีฟ้า ค่านิยมของสาวไทย หากได้ควงหนุ่มฝรั่งเป็นต้องเท่ระเบิด !! เพราะความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและเชื้อชาตินี้เอง จึงเป็นเสน่ห์ที่หนุ่มสาวต่างแดนจะปิ๊งรักกันง่ายขึ้น ยิ่งหนุ่มต่างชาติคนไหนที่สามารถพูดได้หลายๆ ภาษา หากเข้ามาจีบสาวไทยแล้ว มีหรือจะเซย์ โน ได้ลง หนุ่มแบดบอย ในชีวิตหนึ่งของสาวๆ มีหรือที่จะไม่ต้องการใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง โดยเฉพาะ ซ้อนท้ายกับหนุ่มซิ่งสุดหล่อ หรือแบ็คแพคไปกับหนุ่มนักเดินทาง แม้แต่ควงกับมาเฟียใหญ่ ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง และจิตวิญญาณอันอิสระของหนุ่มๆ ประเภทนี้ จึงครอบครองหัวใจสาวๆ ได้ง่ายๆ หนุ่มอัจฉริยะ ความฉลาดและความเก่ง ย่อมนำมาซึ่งความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต แถมหนุ่มประเภทนี้ ยังมอบยีนดีๆ ให้ทายาทของคุณด้วย แถมความรู้มากของเขา ยังทำให้คุณสาวๆ ไม่เบื่อที่จะขวนขวายหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ หนุ่มนักเอาใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตูรถให้ยามคุณขึ้น-ลง จ่ายค่าอาหารทุกครั้งที่นัดการทานมื้อหรู แถมยังเสนอของหวานแสนโปรดของคุณตบท้ายเป็นรางวัล ชวนคุณทำกิจกรรมยามว่าง โดยที่คุณแทบไม่ต้องวางแผนจัดตารางวันหยุด หนุ่มๆ ที่เอาใจเก่ง เลยติดโผหนุ่มๆ ที่สาวๆ ปฏิเสธไม่ลงด้วย